
Kengan Ashura กำปั้นอสูร อนิเมะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ มาแรงมากๆใน NETFILX ออกอากาศ 31 กรกฎาคม 2019 ทาง NETFLIX เท่านั้น อนิเมชั่นภาพ3D นี้เป็นอนิเมชั่นที่แปลกใหม่ และภาพที่ไม่เหมือนใครสำหรับคนที่ชอบอนิเมะแนว โหด ดิบ เถื่อน ที่ไม่แพ้ บากิ แล้วล่ะก็ขอแนะนำเรื่องนี้เลยเป็นอนิเมะแนวเดียวกัน เรื่องนี้มันส์กว่ามากๆ สังเวียนการชกมวยแบบใต้ดินที่ไม่มีความเกรงใจในการปล่อยหมัดและยังไม่รับประกัน การบาดเจ็บอีกด้วย สำหรับเรื่องราวความเป็นมาของเรื่องนี้คือมีอยู่ว่ากลุ่มสมาคมพ่อค้า และนายทุนใหญ่ที่ดูแลระบบเศรษฐกิจอยู่เบื่องหลังของประเทศได้มีความขัดแย้งกันระหว่างพ่อค้า มีอย่างยาวนานนับ10กว่าปี นายทุนใหญ่ซึ่งได้จัดการแข่งขันมวยใต้ดินเพื่อการพนัน และได้จัดหานักสู้ทั่วๆโลกให้มาเจอกัน มวยใต้ดินนี้ถูกเรียกว่าเคนกัง หรือ ศึกเจ้ากำปั้นพวกเขาได้ระดมรวบรวมนักสู้ทั่วทุกมุมโลกโดยสมาคมพ่อค้าของญี่ปุ่น และมีเงินรางวัลก้อนโต รออยู่สำหรับผู้ชนะกฎกติกานั้นคือ สู้จนกว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้หรือตายกันไปข้างเป็นอนิเมชั่นที่ดูแล้วเร้าใจมากๆ เราจะได้เห็นการต่อสู้อันดุเดือดลีลาท่าทางต่างๆที่จะออกมาชิงไหวชิงพริบกันบอกได้เลยปล่อยหมัดแต่ละทีต้องมีเลือดนองแน่นอน สิ่งที่ประทับใจคือมีมวยไทยเข้ามาเกี่ยวด้วยอีกต่างหากเห็นแล้วปลื้มสุด ๆ
สำหรับคนที่ชอบดูอนิเมะเนื่อง บากิ ก็น่าจะชอบเรื่องนี้เป็นพิเศษเลยถ้าได้ดูอนิเมชั่น3Dที่โด่งดังมากที่ญี่ปุ่นว่าด้วยเรื่องราวของโทคิตะ โอมะ หนุ่มสุดหล่อ ที่คลั่งไคล้ในการต่อสู้วันหนึ่งเขาได้พบเข้ากับ ยามาชิตะ พนักงานเงินเดือนวัย65 ปีที่ถูกจ้างให้เป็นพี่เลี้ยงให้กับ โอมะ ได้เข้าร่วม การต่อสู้ เคนกังศึกเจ้ากำปั้น และเป็นมวยใต้ดินที่ไม่มีกฎใดๆทั้งสิ้นสู้กันไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหรือ อีกฝ่ายยอมแพ้เมื่อกลุ่มสมาคมพ่อค้า และ นายทุนใหญ่ที่ควบคุมระบบเศรฐกิจอยู่เบื้องหลังของประเทศเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กันมาอย่างยาวนานนับแต่สมัยอดีตกาล และแต่บริษัทจะทำการหานักสู้ ฝีมือฉกาจให้เข้าร่วมศึกเคนกังในฐานะตัวแทนองค์กร
สมาคมพ่อค้าของญี่ปุ่นมาดวลกันโดยมีเงินรางวัลก้อนโตที่กลุ่มนายทุนได้วางเดิมพันไว้นักชกได้เงินกลุ่มนายทุนได้อำนาจจึงกลายเป็นประเภณีที่สืบทอดกันมานับแต่ยุคเอโดะ โอมะ ที่มีพรสวรรค์ในการต่อสู้ และได้เข้าตา เจ้าของบริษัทจึงสามารถเข้าร่วมศึก เคนกังได้ โอมะนั้นไม่ใช่แค่นักสู้ธรรมดาแต่เขานั้นมีอสูรสิงอยู่ในต้ว และมีความสามารถที่หลากหลายผสมกันไปดังนั้นเขาจึงถูกเรียกว่า อาชูร่า และศึกครั้งแรกของเขาคือการต่อสู้เพื่อสร้างชื่อเสียง โทคิตะ โอมะ นั้นเป็นคนที่เต็มไปด้วยปริศนามากมายไม่มีใครรู้ถึงอดีตของเขาได้แต่มีอย่างเดียวที่ถูกเปิดเผย
คือเขาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ที่โด่งดังและชำนาญเรื่องการต่อสู้ นั่นก็คือ นิโกะ เป็นทั้งชื่ออาจารย์ และ ชื่อวิชาของพระเอกอีกด้วย อะไรจะเท่ขนาดนั้น แต่อาจารย์ของเขาก็ถูกฆ่าตายด้วยนำ้มือของ ชายปริศนา ที่ทำให้นั้น โอมะ แค้นและหาทางจะเอาชนะ คนๆ นั้นให้ได้ ได้ดูจนจบแล้วคิดว่ามันแปลกใหม่ดี ที่อนิเมชั่น 3D จะทำออกมาได้ดีขนาดนี้ ฉากต่อสู้ชิงไหวชิงพริบที่ทำให้ตื่นเต้น การต่อสู้เลือดสาดในแต่ละฉากนั้นดูแล้วสะใจแทนมากๆเด็กที่อายุ ต่ำกว่า 15 ปีควรได้รับคำแนะนำ เพราะมันมี ฉาก 18+ ปนมานิดหน่อยเป็นอีกเรื่องที่อยากให้ติดตาม โทคิตะจะบรรลุเป้าหมายของเขาหรือไม่ไปเอาใจช่วยพวกเขากัน
ถ้าพูดถึงมังงะญี่ปุ่นที่เน้นการต่อสู้แบบดุเดือดเลือดพล่าน เน้นฉากแอ็กชั่นที่มันถึงใจ ประยุกต์ให้เข้ากับศิลปะการต่อสู้แขนงต่างๆ ชื่อของ “บากิ” ผลงานมังงะจากปลายปากกาของ “เคสุเกะ อิตางากิ” คือหนึ่งในชื่อที่จะโผล่มาในอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน โดยในปัจจุบัน บากิ ฉบับมังงะด้วยกันทั้งหมดถึง 4 ภาค (ไม่นับภาคพิเศษ Spin-Off อีก 2 ภาค) และจบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนอกจากนั้นยังมีผลงานแอนิเมชั่นที่ร่วมทุนกับทาง Netflix ออกมาอีก 2ซีซั่น(ยังไม่จบ)ความพิเศษที่ทำให้ บากิ นั้นโดดเด่นข้ามกาลเวลามานับ 2ทศวรรษ และมีจำนวนแฟนคลับที่ติดตามอย่างเหนียวแน่นคือการที่ไม่ว่าจะหยิบมาอ่านหรือดูเมื่อไรอะดรีนาลีนในร่างกายก็พลุ่งพล่านเสมอ อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ ใน Netflixได้มีแอนิเมชั่นเรื่องใหม่ในชื่อ“กำปั้นอสูร โทคิตะ”เข้ามา ซึ่งเมื่อเปิดดูก็ค้นพบว่า ระดับดีกรีความดุเดือดนั้นไม่แพ้บากิเลย จนสื่อหลายที่ถึงกับยกย่องว่าเป็น บากิยุคใหม่“กำปั้นอสูร โทคิตะ”ว่าด้วยวงการธุรกิจประเทศญี่ปุ่นที่ในการเจรจาหรือตกลงธุรกิจแต่ละครั้ง พวกเขาไม่ได้ว่ากันด้วยเงิน แต่เป็นการต่อสู้ โดยแต่ละบริษัทจะมีนักสู้ในสังกัดตัวเอง นักสู้จากบริษัทไหนเป็นฝ่ายชนะ ก็มีสิทธิ์เหนือกว่าในการเจรจาธุรกิจครั้งนั้นๆทำให้ในเรื่องเราจะได้เห็นนักสู้มากมายหลากหลายแขนงนอกจากนั้นยังมีท่าไม้ตายแปลกๆอีกเพียบที่พวกเขาแสดงออกมา
โทคิตะ โอมะ พระเอกของเรื่องผู้ลึกลับ เขาคือเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่บังเอิญได้รับการฝึกวิชาต่อสู้สไตล์ “นิโกะ”จาก“โทคิตะ นิโกะ”นักสู้พเนจรผู้เปรียบเสมือนพ่อของเขาโดยศิลปะการต่อสู้วิชานิโกะคือวิชาต่อสู้ที่ครบเครื่องโดดเด่นทั้งการยืนสู้และการจับล็อค สามารถเปลี่ยนอวัยวะทุกส่วนในร่างกายให้กลายเป็นอาวุธสุดอันตรายได้ และยังเกี่ยวข้องกับการควบคุมพลังปราณภายในอีกด้วยนอกจากนั้นเมื่อเข้าตาจนโอมะ ยังมีวิชาลับที่เรียกว่า“Advance”ซึ่งคือการปลดปล่อยพลังขั้นสูงสุดก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายตัวเอง ซึ่งในขณะที่ใช้ร่างกายของโอมะ จะแปรสภาพเป็นสีแดงราวกับปีศาจอย่างไรก็ตามท่านี้ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก เพราะมันคือการยืมอายุขัยในอนาคตของตัวเองมาใช้
อินาบะ เรียว คือคู่ต่อสู้คนแรก โอมะ ในศึกการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เพื่อแย่งชิงตำแหน่งประมุขของบริษัททั้งปวงในประเทศญี่ปุ่นตัวแทนนักสู้จากบริษัท“พานาโซนิค”คนนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่น เนื่องจากเรียว นั้นมีส่วนสูงเพียง155 เซนติเมตร หนัก62กิโลกรัมเป็นตัวละครนักสู้ที่มีรูปร่างเล็กที่สุดในเรื่องอย่างไรก็ตามการที่ โทคิตะ จะเอาชนะเขาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเรียว มีเทคนิคการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใครโดยเริ่มจากการ“เคลื่อนตัวหลอก”เทคนิคที่อาศัยเพียงปลายนิ้วในการเคลื่อนที่ในระนาบต่ำอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวของเขาได้ผสมผสานเข้ากับท่า“ขนแมงมุม” โดยในท่านี้เรียวจะสามารถควบคุมเส้นผมยาวของตัวเองได้ดั่งใจใช้มันเป็นเหมือนเชือกที่ไม่มีวันขาดในการรัดร่างกายคู่ต่อสู้เอาไว้
ชิบะ ทาคายูกิ ถึงแม้จะเป็นตัวละครที่บุคลิกภายนอกอาจจะดูไม่โดดเด่นแต่นักสู้จากบริษัท“อสังหาริมทรัพย์โยชิทาเกะ”รายนี้มีวิชาการต่อสู้ที่แปลกที่สุดก็ว่าได้เพราะวิชาของเขาคือ“การเลียนแบบ”ไม่ว่าจะเป็นวิชาการต่อสู้แบบไหนซับซ้อนเพียงใดขอแค่ได้เห็นมันเพียงครั้งเดียวทาคายูกิก็สามารถเลียนแบบและนำมันออกมาใช้ได้เหมือนเป๊ะทุกกระเบียดนิ้วฟังดูเหมือนเขาจะเก่งกาจไร้เทียมทาน แต่ที่จริงแล้ววิชานี้ก็มีจุดอ่อนใหญ่หลวงอยู่นั่นคือทาคายูกิ สามารถเลียนแบบได้แค่ท่วงท่าไม่สามารถเลียนแบบสภาพร่างกายได้ ดังนั้นไม่ว่าเขาจะเลียนแบบวิชาการต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดไหนแต่ถ้าพลังร่างกายของเขาอ่อนแอมันก็แทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย
เจอร์รี่ ไทสัน นักสู้จากแผ่นดินอเมริกาตัวแทนบริษัท“22 Fax”(เลียนมาจาก 20th Fox)ที่ถึงแม้จะพลาดท่าตกรอบคัดเลือกในศึกชิงประมุขบริษัทไปอย่างน่าเสียดายแต่ก็นับว่าเขาเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งบุคลิกและวิชาต่อสู้ไทสันใช้วิชาต่อสู้ที่มีชื่อว่า “Xing Yi Quan”ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่เน้นการเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ป่าว่องไว และไม่อาจคาดเดาได้นอกจากนั้นเขายังมีท่าไม้ตายที่อันตรายอย่าง“SCUD Missile”ที่เขาจะพุ่งตัวเหมือนกับจรวดขีปนาวุธ(ให้นึกถึงท่าบินของซูเปอร์แมน)โจมตีใส่ทุกอย่างที่ขวางหน้า
คาเนดะ ซูคิจิ ซูคิจิ คือ “นักสู้ที่ไม่ใช่นักสู้”เพราะจริงๆแล้วเขาคือเซียนหมากรุกอัจฉริยะที่เข้าร่วมศึกการต่อสู้ “เค็นกัน”เพราะต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ใช่คนอ่อนแอดังนั้นเขาจึงเป็นนักสู้เพียงคนเดียวที่ไม่มีวิชาการต่อสู้ติดตัวเลย เทคนิคที่ ซูคิจิ ใช้ในเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้นั้นประยุกต์มาจากการชิงเหลี่ยมเฉือนคมบนกระดานหมากรุกอาศัยสมองอัจฉริยะของตัวเองในการอ่านความเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ล่วงหน้า ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งเพียงใดแต่ถ้าโดนอ่านออกว่าจะโจมตีมาในรูปแบบไหนความแข็งแกร่งนั้นก็แทบจะศูนย์เปล่านี่แหละการต่อสู้ในสไตล์ของ“คาเนดะ ซูคิจิ”
ฮานาฟุสะ ฮาจิเมะ จริงๆ แล้วเขาคือแพทย์ประจำทัวร์นาเม้นท์การต่อสู้แต่เขามีเหตุผลบางประการทำให้ต้องลงไปร่วมต่อสู้ด้วยนอกจากนั้น“ฮานาฟุสะ ฮาจิเมะ”ที่พิลึกพิสดารไม่เหมือนใครเริ่มจากวิชา “Lingshu Chin Na” ที่นำศาสตร์การฝังเข็มมของจีนมาประยุกต์เข้ากับการต่อสู้ถ้ามองผิวเผินจะเหมือนการจิ้มไปที่ผิวหนังธรรมดา กว่าที่คู่ต่อสู้จะรู้สึกตัวว่าท่านี้ร้ายกาจแค่ไหนก็สายไปเสียแล้วนอกจากนั้นด้วยวิชาความรู้ในด้านการแพทย์ ฮาจิเมะ ยังทำการผ่าตัดตัวเองให้กลายเป็นคนที่ปราศจากความรู้สึกเจ็บปวดดังนั้นไม่ว่าเขาจะโดนอัดมากแค่ไหนก็ไม่เป็นผลความแปลกของเขายังไม่หมดเพียงเท่านี้นอกจากจะทำลายความเจ็บปวดของตัวเองแล้ว ฮาจิเมะ ยังดัดแปลงร่างกายตัวเองเปลี่ยนกระดูกให้เป็นใบมีด และสามารถงอกออกมานอกร่างกายกลายเป็นดาบแหลมคมได้ และสุดท้ายถึงแม้ชีพจรของเขาจะดับลงแต่ฮาจิเมะ ก็ดัดแปลงร่างกายของตัวเองไว้ล่วงหน้าแล้วว่าให้สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง
ลิฮิโตะ ลิฮิโตะ คือนักสู้ที่ปรากฏตัวให้เห็นตั้งแต่ตอนแรกๆ ของเรื่องก่อนที่จะค่อยๆ พัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆไปพร้อมกับพระเอกของเราและถึงแม้ว่าบุคลิกภายนอกจะดูโหวกเหวกโวยวายซื่อๆแต่วิชาการต่อสู้ของเขานั้นก็มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครวิชาต่อสู้ของลิฮิโตะ เน้นการฝึกพลังนิ้วอย่างเข้มงวดเพื่อให้นิ้วมือทั้งสิบของเขานั้น แข็งแกร่งจนมีสภาพไม่ต่างจากมีดที่แหลมคมสามารถเชือดเฉือดผิวหนังมนุษย์ได้เหมือนกับตัดเต้าหู้เลยทีเดียว
ซาวาดะ เคซาบุโร่ เรียกได้ว่าโดดเด่นตั้งแต่บุคลิกภายนอกจนถึงวิชาการต่อสู้เลยทีเดียวสำหรับ“ซาวาดะ เคซาบุโร่”นักสู้จากบริษัท“Murder Music”(เลียนมาจาก“Warner Music”) ที่มาในมาดของผู้ชายข้ามเพศ ศิลปะการต่อสู้ในแบบของ เคซาบุโร่ คือการประยุกต์การเต้นบัลเล่ต์เข้ากับวิชาการต่อสู้มีความพริ้วไหวสง่างาม และยืดหยุ่นของร่างกายสูง นอกจากนั้นยังมีการใช้ท่าบัลเล่ต์เน้นการบิดหมุนของร่างกาย เสริมพลังการเตะหรือต่อยให้รุนแรงยิ่งขึ้น
คุเร ไรอัน คือนักสู้จากตระกูล“คุเร”ซึ่งถือเป็นตระกูลนักฆ่าที่เลื่องชื่อที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ไรอัน จัดเป็นหัวกะทิของตระกูล เขาได้รับการฝึกฝนอย่างหนักมาตั้งแต่จำความได้ นั่นจึงทำให้ ไรอันคลั่งไคล้การต่อสู้เป็นอย่างมากพร้อมจะฆ่าทุกคนที่ขวางหน้าไรอัน เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นแทบทุกรูปแบบ สามารถพลิกแพลงได้หลากหลายแต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นคือ“Removal”ท่าไม้ตายที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกายของตัวเองให้กลายเป็นปีศาจคล้ายกับพลังAdvanceคือโอมะ โดยในท่านี้ ร่างกายของไรอัน จะกลายเป็นสีแดงมีเส้นเลือดโป่งพองขึ้นมาบริเวณผิวหนัง และใช้พลังเกินขีดความสามารถของร่างกายตัวเองได้ถึง 30%
เซา แปงค์ เซาแปงค์ คือนักสู้ที่ใช้วิชามวยไทยสไตล์เมียนมเปิดตัวด้วยบุคลิกอันโดดเด่น ร่าเริง โผงผาง เต็มเปี่ยมด้วยพลังดูเผิน ๆเหมือนว่าวิชาของเขาจะเป็นวิชามวยไทยทั่วไป แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่ทำให้ เซา แปงค์ แตกต่างจากคนอื่นๆ คือความแข็งแกร่งของกระดูกโดยเฉพาะกะโหลกที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ว่ากันว่ากะโหลกของเขานั้นแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าสามารถโขกทำลายพื้นปูนได้อย่างสบายๆจึงเป็นที่มาของท่าไม้ตาย“Hammer of Burma”การโขกที่สามารถปลิดชีพคู่ต่อสู้ได้ภายในพริบตานี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะใน“กำปั้นอสูรโทคิตะ”นั้นยังมีนักสู้ที่มีศิลปะการต่อสู้พิสดารอีกมากมายหลายแขนงที่พร้อมมาประชันกันในสังเวียนเลือดสุดโหด