Record of Ragnarok 2 Part 2 เมื่อเหล่าเทพในตำนานตัดสินให้มนุษยชาติต้องถูกกวาดล้างจนหมดโลก บรุนฮิลด์ พี่สาวคนโตของ 13 วัลคีรีย์ได้เสนอให้เทพต้องสู้กับวิญญาณของตัวแทนฝ่ายมนุษย์แบบตัวต่อตัว เหล่าทวยเทพได้ให้โอกาสมวลมนุษย์เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าควรมีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้ การต่อสู้ระหว่างคนกับเทพ 13 แมตช์

เพื่อตัดสินชะตาของมนุษยชาติจึงเริ่มขึ้น หลังจาก ‘Record of Ragnarok – มหาศึกคนชนเทพ’ ซีซัน 2 พาร์ตแรกจบลงไป หลายคนคงกำลังรอคอยตัวตึงกบิลพัสดุ์อย่างพระพุทธเจ้าหรือในเรื่องคือท่านศากยมุนีออกโรงสู้ศึก เพราะเปิดตัวหลังจบศึกแจ็กเดอะริปเปอร์ปะทะเฮอร์คิวลีส และไรเดนปะทะศิวะเอาไว้ได้อย่างน่าประทับใจแถมน่าติดตามสุด ๆ โดยซีซัน 2 พาร์ต 2 นั้นเข้าฉายเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมารวดเดียวตั้งแต่ตอนที่ 11 – 15 เรื่องราวความสนุกจะสมการรอคอยหรือไม่ เรามีรีวิวมาฝาก

รับพรจากพระพุทธเจ้าโดยพร้อมเพรียงกัน Record of Ragnarok 2 Part 2

Record of Ragnarok ซีซัน 2 พาร์ต 2 ถึงคิวออกโรงของขวัญใจมหาชนอย่างพระพุทธเจ้า (ศากยมุนี) เทพผู้เปลี่ยนฝั่งมาต่อสู้เพื่อมวลมนุษย์ ดวลเดือดปะทะเจ็ดเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ชิจิ ฟุคุจิน) จากตำนานความเชื่อของประเทศญี่ปุ่น ทำไมพระพุทธเจ้าถึงเลือกเปลี่ยนฝั่งมาต่อสู้เพื่อมนุษย์ และความลับเบื้องหลังเจ็ดเทพเจ้าแห่งโชคลาภคืออะไร เราจะได้รู้กันในพาร์ต 2 นี้ รับชมกันเต็มอิ่มจุใจตั้งแต่ตอนที่ 11 – 15 กันไปเลย

ก่อนอื่นเมื่อต้องรีวิว ‘Record of Ragnarok’ แล้วจะไม่พูดถึงเรื่องงานภาพและฉากต่อสู้ก็คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจะขอยกมาพูดกันเป็นเรื่องแรก โดยรวมงานภาพของซีซัน 2 พาร์ต 2 นี้ต้องบอกว่า “ให้ผ่าน” ได้แบบไม่ติดใจอะไร ภาพและสีสันสวยงาม ลายเส้นส่วนใหญ่ดูละเอียดและใส่ใจขึ้น ส่วนฉากต่อสู้ก็ทำออกมาได้ดุเดือดสมศักดิ์ศรีคู่เด็ดที่แฟน ๆ รอคอย แต่แน่นอนว่ายังมีฉากงานเผาที่เห็นกันแบบชัด ๆ และการต่อสู้ที่ถึงจะดีแต่ก็ยังทำได้ไม่เท่ากับมาตรฐานที่ทำเอาไว้ในคู่ของแจ็กเดอะริปเปอร์ปะทะเฮอร์คิวลีส แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าซีซันแรก ดูได้แบบสบายใจแน่นอน

เรื่องราวใน Record of Ragnarok 2

เรื่องราวใน ‘Record of Ragnarok’ ซีซัน 2 พาร์ต 2 ให้ความสำคัญกับสังเวียนการต่อสู้ของศากยมุนีและชิจิ ฟุคุจิน (ที่ภายหลังกลายเป็นเซโรฟุคุ) อย่างเต็มที่ การเล่าเรื่องยังคงสลับฉากระหว่างการต่อสู้กับการเล่าย้อนอดีต เพื่อให้เราเข้าใจแรงจูงใจและมิติตัวละครต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งในพาร์ตนี้ต้องชมว่าทำได้ค่อนข้างดี เรื่องราวความหลังของเซโรฟุคุทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมเทพที่เคยจิตใจสะอาดบริสุทธิ์จึงเปลี่ยนไป

และยังมีสิ่งที่ทำให้เราได้รู้ว่าบางครั้งเส้นกั้นระหว่างเทพและมารก็อาจเป็นแค่เส้นบาง ๆ เท่านั้น ส่วนตัวละครสำคัญอย่างพระพุทธเจ้าหรือศากยมุนีนั้นต้องขอชมว่าทั้งตัวผู้เขียนและทีมงานอนิเมะตีความออกมาได้ดี สร้างคาแรกเตอร์ออกมาได้น่าประทับใจแถมโดนใจทั้งคนอ่านและคนดูไปตาม ๆ กัน เป็นการสรุปรวมความเป็น “พระพุทธเจ้า” ออกมาได้เข้าถึงง่าย ดูห้าวหาญ น่าเกรงขาม

เป็นตัวตึงที่พร้อมบวกกับทุกคนไม่สนว่าเป็นเทพหรือใครหน้าไหน สมกับฉายาที่วัลคีรีบรุนฮิลด์เรียกท่านว่าเป็น “ชายวัยต่อต้านที่แข็งแกร่งที่สุด” ดูแล้วก็อดรู้สึกเอาใจช่วยท่านได้ไม่ยากเลยจริง ๆ ตรงจุดนี้ถือว่า ‘มหาศึกคนชนเทพ’ ทำได้ดีอยู่แล้วในด้านการนำเทพเจ้าและมนุษย์คนสำคัญในประวัติศาสตร์มาตีความใหม่และเขียนเรื่องราวให้ปรากฎตัวในการ์ตูนได้อย่างน่าสนใจ

Record of Ragnarok 2 Part 2 รีวิว

สำหรับซีซันนี้ก็คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เนื้อเรื่องและจังหวะการเล่าเรื่องยังคงเหมือนกับซีซัน 1 ตัวเนื้อเรื่องมันไม่มีอะไรเลย นอกจากเอาเทพกับมนุษย์มาสู้กัน จังหวะการตัดและการเล่าเรื่องก็ยังเหมือนเดิม คือถ้าใครชอบดูแนวนี้แบบดูเอามันส์ก็จะชอบไปเลย ส่วนใครที่ไม่ชอบก็จะทนดูจนจบไม่ไหว อันนี้มันแล้วแต่ความชอบจริงๆ

เพราะการดำเนินเรื่องค่อนข้างจะยืดเยื้อจนเกินกว่าเหตุมากๆ ซีซัน 2 พาร์ทแรกที่เปิดมานี้มีทั้งหมด 10 ตอน แต่กลับให้เราได้ดูการประลองแค่ 2 คู่ คิดเอานะตั้ง 10 ตอน ดันสู้ไปแค่ 2 คู่ ทั้งที่ฉากสู้ของแต่ละคู่ก็น้อยมากๆ คือมันเอาเวลาไปใช้กับการเล่าอดีตของแต่ละตัวละคร แถมเล่านานสุดๆ อารมณ์ประมาณว่า คู่นึงใช้เล่าฝั่งเทพไป 2 ตอน เล่าฝั่งมนุษย์ 2 ตอน และก็สู้กันจริงๆ ตอนนึง คือถ้าใครสายเสพเนื้อเรื่องผมบอกตามตรงว่าไม่เหมาะสุดๆ เพราะมันไม่มีอะไรเลย

ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมหน่อยก็ยังพอมี คือช่วงตอนแรกๆ ที่เป็นคู่ของ เฮอคิวลิส กับ แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ฉากการต่อสู้ของคู่นี้ทำออกมาได้ดีกว่าซีซันแรก มีการใช้เทคนิค 3D เข้ามาในฉากต่อสู้ ทำให้มันดูดีและมีมิติมากขึ้น แถมตัวละครแจ๊ค เดอะริปเปอร์กับเฮอคิวลิสก็เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์และเท่ห์พอตัว ทำให้ช่วงของคู่นี้มันสนุกและดูเพลินพอสมควร แต่ความปั่นก็คือมันมาดีแค่ช่วงแรกนิดเดียว พอเข้าคู่ที่ 2 ทุกอย่างกลับมาเป็นงานเผาเหมือนซีซันแรก ฉากสู้ก็ไม่ได้มีการใช้ 3D เข้ามาเหมือนคู่แรก

คืองงจริงๆนะ ทำทั้งทีทำไมไม่ทำให้มันคุณภาพเดียวกันหมด อันนี้ไม่รู้ว่าเขาเจอปัญหากับการทำงานหรือกรอบเวลาในการทำงานอะไรยังไง คุณภาพของานที่ออกมามันถึงไม่เท่ากัน ทั้งที่การ์ตูนก็มีกระแสค่อนข้างดี น่าจะทำให้ดีกว่านี้หน่อย คือเนื้อเรื่องมันไม่มีอะไรเลย ดังนั้น ควรทำให้ดีกับงานภาพและฉากแอ็คชั่น แต่มันกลับเป็นงานเผาไปซะได้

สิ่งที่ดีงามที่สุดในซีซันนี้คงจะเป็นตัวละครพระพุทธเจ้า หรือที่ในเรื่องเรียกว่า ศากยมุณี เป็นตัวละครที่ออกมาแค่นิดเดียวแต่โคตรเท่ห์และแย่งซีนคนอื่นไปจนหมด มีความอินดี้และหัวขบถแบบสุดๆ ออกแบบตัวละครมาค่อนข้างดี อันนี้ต้องยกเครดิตให้มังงะ เพราะในอนิเมะก็ทำตามมังงะทุกอย่าง และการที่เขาแบ่งซีซันนี้เป็น 2 พาร์ทอาจเป็นเพราะเขาอยากทำงานภาพของคู่ที่ 6 คือ ซีโร่ฟุคุ ปะทะ พระพุทธเจ้า แน่ๆ เลยเลื่อนตอนที่ 11-15 ออกไปฉายทีหลัง

เพราะเขาคงรู้อยู่แล้วว่าตัวละครนี้ป๊อปที่สุดในเรื่อง ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ถือว่าดี เพราะส่วนตัวก็อยากเห็นคู่พระพุทธเจ้าแบบมันส์ๆ อันนี้ต้องรอลุ้นกันอีกทีว่าจะเป็นอย่างที่หวังไหม สรุปโดยรวมเลยคือ ซีซันนี้เปิดหัวมาดีแค่ช่วงแรกๆ พอผ่านช่วงกลางๆ มาทุกอย่างก็กลับสู่สูตรเดิม งานอนิเมชั่นคือค่อนข้างแย่ เนื้อเรื่องกลวงๆ เน้นขายตัวละครเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม รีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น เพราะคุณอาจจะชอบก็ได้ คนเรามีรสนิยมต่างกัน ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือทุกคนควรไปดูด้วยตาตนเอง

การต่อสู้ในศึกนี้โดดเด่นเรื่องการใช้อาวุธเข้าปะทะกัน

อาวุธของทั้งสองฝ่ายมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นอีกหนึ่งความสนุกของอนิเมะว่าในศึกแต่ละครั้งเราจะได้เห็นอาวุธแบบไหนบ้าง แม้ช่วงแรกดูเหมือนเซโรฟุคุจะตกเป็นรอง แต่ก็มีช่วงเวลาพลิกเกมให้เราได้ลุ้นตัวเกร็งกันจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนจะปิดฉากศึกในครั้งนี้ไปได้อย่างประทับใจ ถือเป็นการต่อสู้บนสังเวียนศึกแร็กนาร็อกที่น่าจดจำมากที่สุดอีกศึกหนึ่งเลยทีเดียว

โดยรวมแล้วในด้านการเล่าเรื่อง การต่อสู้ ‘Record of Ragnarok’ ซีซัน 2 พาร์ต 2 ทำออกมาได้ดี ตัวละครหลักในพาร์ตนี้โดดเด่นและมีมิติที่น่าสนใจ แต่ก็แอบเสียดายที่เราได้เห็นตัวตนของเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ดน้อยไปหน่อย เพราะแต่ละองค์ออกแบบมาได้มีเอกลักษณ์น่าดูว่าหากต่อสู้ในร่างนี้จะเป็นอย่างไร

ในส่วนของฝั่งวัลคีรี ในพาร์ต 2 นี้บรุนฮิลด์ยังคงออกมาเป็นเหมือนตัวประกอบเช่นเคย แม้ช่วงต้นจะมีการเปิดเผยออกมาเล็กน้อยว่าเธอเคยไปร่ำเรียนวิชากับท่านศากยมุนี และโดนท่านสงสัยถึงแรงจูงใจที่แท้จริงรวมถึงสงสัยว่าศึกแร็กนาร็อกในครั้งนี้คือแผนการของบรุนฮิลด์มาตั้งแต่แรก แต่เรื่องราวในตอนนี้ก็ไม่ทำให้เธอเด่นขึ้น ยังเป็นตัวประกอบข้างสนามเช่นเดียวกับเทพองค์อื่นเหมือนเดิม

‘Record of Ragnarok’ ซีซัน 2 พาร์ต 2 ปิดท้ายด้วยการเผยตัวละครที่จะเข้ามามีส่วนร่วมกับศึกรอบต่อไป นั่นคือเทพแห่งความตายผู้เป็นเจ้าแห่งนรก ฮาเดส จอมปีศาจเบลเซบับ (ที่มีส่วนทำให้เกิดเรื่องราวในพาร์ตนี้ด้วย) และราชาแห่งสรรพสิ่งจิ๋นซีฮ่องเต้ การต่อสู้จะเดือดและน่าติดตามแค่ไหนต้องรอชม

10 อันดับตัวละครยอดนิยม Record of Ragnarok 2

1. อาดัม คนแรกคือ “อาดัม” ผู้ที่กวาดหัวใจคนดูพร้อมน้ำตาไปได้อย่างล้นหลามในซีซั่นแรก ทำให้ตัวละครนี้ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะนอกจากจะปรากฎตัวด้วยคอสตูมที่มีเพียงแค่ใบไม้ใบเดียวจนชวนอึ้งแล้ว บทของตัวละครนี้ยังดีมากๆ ทั้งความรู้สึก ความซื่อตรง ความพยายามที่จะต่อสู้เพื่อมนุษย์ เพราะตามประวัติแล้ว “อาดัม” คือมนุษย์คนแรกที่เกิดขึ้น และเกิดการสร้างขึ้นมาโดยทวยเทพและให้เขาใช้ชีวิตอยู่ในอีเดนดินแดนของเหล่าเทพ ดังนั้นเขาจึงเปรียบเสมือนบิดาแห่งมนุษย์ คิดว่าทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องของอาดัมและอีฟกันมาบ้าง และเพราะแบบนั้นอาดัมจึงมีนิสัยที่อยากจะปกป้องมนุษย์ทุกคนที่เป็นเสมือนกับครอบครัวของเขา
2. ศากยมุณี ( บุดด้า )มาถึงตัวตึงตัวท็อปคนที่สอง จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากศากยมุณี หรือก็คือบุดด้า พระพุทธเจ้าของขาวพุทธ และพระพุทธองค์เวอร์ชันนี้สูดปังจริงๆ ทางเรานี่หลงรักชนิดว่าตกนรกก็ยอมเลย ความจี๊ดของตัวละครนี้ส่วนตัวรู้สึกว่าน่าจะเป็นเพราะคาแรกเตอร์ที่เหมือนคนเงียบๆ ขี้เล่นขี้กวน แต่พร้อมบวกตลอดเวลา แม้ภายนอกจะเป็นคนเงียบขรึม พร้อมบวกแค่กลับเป็นคนชอบขนมหวานและยังเพิ่มความน่ารักด้วยเสื้อกล้ามลายกระต่าย และไม่ใช่กระต่ายธรรมดาๆ แต่มันมีที่มาที่ไปตามนิทานชาดกที่ชาติหนึ่งของพระพุทธองค์นั้นเคยได้เกิดเป็นกระต่ายและยินยอมสละร่างเพื่อเป็นอาหารให้แก่พราหมณ์ ซึ่งเนื้อหาค่อนข้างเยอะมาก หากใครอยากอ่านเกี่ยวกับชาติกระต่ายของศากยมุณีต่อนั้นสามารถหานิทานชาดกเรื่องกระต่ายผู้สละชีวิต ( สสปัณฑิตชาดก ) แน่นอนว่าความฮอตปรอทแตกของตัวละครนี้ไม่ได้แค่ฮอตฮิตในหมู่แฟนมังงะอนิเมะสาวๆ เท่านั้น เหล่าหนุ่มๆ เองหลายคนก็โหวตให้เขาเท่สุดๆ บุดด้า หรือ ศากยมุณี เป็นเทพที่เลือกจะสู้เพื่อมนุษย์ โดยเปิดตัวแบบตึงๆ ไปแล้วในซีซั่น 2 แต่ยังไม่สู้ต้องรอพาร์ท 2 ซึ่งมีกำหนดฉายในปีนี้แต่ยังไม่ทราบเดือนที่แน่ชัด ตัวละครนี้ไม่ได้เท่แค่ความปากแซ่บเท่านั้นแต่ยังมีทั้งพลัง อาวุธ และความสามารถในแบบพระพุทธเจ้าที่นิพพานแล้วด้วย เรื่องความสามารถทางกายภาพถือว่าโดดเด่นไม่แพ้เทพองค์อื่นๆ เป็นเทพที่มีพลังกายสูงมากเพียงแค่แตะซีโร่ฟุกุก็กระอักเลือดแล้ว มีความรวดเร็ว คล่องตัว ความทนทานและความแข็งแกร่งเทียบเท่าซุส ( อิงตามข้อมูลแฟนด้อมไกด์ )
3. อะโฟรไดท์ก็ไม่แปลกใจนะที่ตัวละครนี้จะติดอันดับยอดนิยม เทพีอโฟรไดท์หรือก็คือ วีนัส เทวีความรักและความงาม แต่ในบริบทในอนิเมะ ส่วนตัวว่าตัวละครนี้มีหน้าที่เซอร์วิสแฟนอนิเมะแหละ ก็มาด้วยภาพลักษณ์ที่ล้นหูล้นตาซะขนาดนั้น เรานี่เป็นผู้หญิงนะแต่เห็นแวบแรกก็ยังร้องอือหือเกินไปมุ้ยเลย เป็นตัวละครที่ติดโพลความนิยมอันดับต้นๆ ทั้งๆ ที่มีบทแค่นั่งเฉยๆ แต่ถ้าจะสาธยายตามตำนานเทพกรีกแล้วนั้นก็ต้องบอกว่าเทพองค์นี้ก็ไม่ได้มีดีแค่สวยเท่านั้น เพราะเชื่อกันว่าความงามของเทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) นั้นสามารถสะกดทั้งเทพและมนุษย์ทั้งหลายที่พบเห็นให้เกิดอาการลุ่มหลงอย่างหนักจนอาจทำให้ขาดสติ กลายเป็นไร้สติ ไร้ความคิดได้เลย และถ้าคุณลองไปค้นหาเทพีอะโฟรไดท์แบบฉบับเทพกรีกดูคุณก็จะเข้าใจดีว่าทำไมเสื้อผ้าของตัวละครนี้ถึงได้น้อยชิ้นหนัก เรียกว่าวาดออกมาเคารพต้นฉบับจริงอยู่เหมือนกัน
4. ซีโร่ฟุกุต่อกันที่ซีโร่ฟุกุ เป็นตัวแทนฝั่งเทพซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ของบุดด้าที่จะมาให้ยลโฉมกันในอนิเมะพาร์ทหน้า แต่ที่เขามีคะแนนโหวตแล้วทั้งๆ ที่ตัวยังไม่ออกมาในอนิเมะเป็นเพราะในมังงะการต่อสู้ชองซีโร่ฟุกุและบุดด้ามันออกมาแล้ว ซึ่งทางเราคิดว่าคู่นี่ก็จะเป็นอีกคู่หนึ่งที่น่าจับตามอง น่าติดตาม ซีโร่ฟุกุ หรือ เซโรฟุกุ ก็คือเทพผู้มอบความสุข ที่เป็นเทพที่ชั่วร้ายในตำนาน เป็นการจับคู่ที่ดีมากนะ บุรุษที่ประเสริฐสุดในโลกหล้าอย่างบุดด้ามาเจอกับเทพที่ชั่วร้ายระดับตำนานอย่างซีโร่ฟุกุเลย และในระหว่างต่อสู้นั้นตัวซีโร่ฟุคุยังเปลี่ยนร่างเป็น “ฮะจุน” พญามารแห่งสวรรค์ชั้นหก เหมือนแสงสว่างมาเจอกับความมืด ช่างเป็นขั่วตรงข้ามที่น่าสนใจมากจริงๆ จากที่อ่านมาในมังงะคู่นี้จะเต็มไปด้วยพละกำลัง การเข้าสู่โหมดร่างต่างๆ ที่อัดแน่นไปด้วยพลัง พลังของบุดด้าก็จะอิงตามภพตามปางของพระพุทธองค์ ส่วนซีโร่ฟุกุเองก็มีร่างให้เปลี่ยน ไหนจะอาวุธอีก ลุ้นแค่สตูดิโอทำภาพออกมาให้เคลื่อนไหวสมูทแบบคู่ของเฮอร์คิวลิสและแจ็ค เดอะริปเปอร์เท่านั้นเป็นพอ  มันส์แน่นอนคู่นี้
5. องค์ศิวะเป็นคู่หลักในซีซั่น 2 ศิวะนี่เป็นตัวละครฝั่งเทพที่น่าสนใจมากอีกหนึ่งตัวละคร แต่ถ้าถามหาความเกี่ยวโยงกับองค์ศิวะตามตำนานเทพอินเดีย เทพที่อยู่เหนือทวยเทพทั้งหมดก็ต้องบอกว่าคาแรกเตอร์หลุดจากที่เป็นไปเยอะเช่นกันนะคะ ตามตำนานที่กล่าวคือส่วนใหญ่เขาจะอยู่ในความสำรวม ดูสุขุม นั่งบำเพ็ญเพียร ออกไปให้พรสาวก และต่อให้ถึงคราวที่ต้องทำลายโลกพระองค์ก็จะมีความรู้สึกเจ็บปวด แต่ในเรื่องคือดูสะใจมากเลยที่จะได้ยำมนุษย์ และตามตำนานก็แทบจะไม่มีคู่ต่อสู้หน้าไหนทำให้องค์ศิวะระคายผิวได้เลย แต่ที่ปรากฎในอนิเมะนั้นก็คือถูกเท้าสองข้างของมนุษย์กระแทกยอดหน้าอย่างจังเลย เป็นเหตุให้อนิเมะเรื่องนี้ถูกแบนไม่ให้ฉายในอินเดีย จริงๆ ก็มีหลายเหตุผลที่ถูกแบนนะหลักๆ คือภาพลักษณ์ที่ออกมาแหวกจากที่เป็นเกินไปจนผู้คนที่นับถือรับไม่ได้ มีผลต่อจิตใจน่ะนะ เน็ตฟลิกซ์อินเดียเลยต้องถอดอนิเมะเรื่องนี้ออก สำหรับเรา ก็เฉยๆ นะคะ มองว่าอนิเมะมันก็สร้างมาเพื่อความบันเทิงอะแหละ แต่ว่ากันไม่ได้เพราะมันคือเรื่องของความศรัทธา อีกอย่างเรื่องความเทพของพระศิวะในเรื่องก็ไม่ได้ถูกเนิฟนะ แค่เพราะเขาไม่คิดว่ามนุษย์จะสู้เขาได้เลยประมาทเลยโดนอัดไปบ้าง แต่พอลุกมาเอาจริง ความเป็นเทพที่อยู่เหนือทวยเทพก็สมราคาคุยความเป็นเทพแห่งการทำลายล้างที่แข็งแกร่งที่สุด อีกส่วนที่ทำออกมาดีคือการเลือกใช้พลังขั้นสุดเป็น “การร่ายรำ” เพราะจากตำนานการร่ายรำของพระศิวะมักจะนำหายนะมาด้วยทุกครั้งไป
6. ไรเดน ทาเมเอมอนไรเดน ซูโม่จอมพลังที่มีพลังกำลังเหนือซูโม่คนอื่นมาก และเขาคนนี้ก็เป็นนักสู้ที่เน้นกำลังกายมากกว่าอาวุธดังนั้นเขาจึงเหมาะจะเป็นคู่ต่อสู้ขององค์ศิวะ ซึ่งคู่นี้จะเน้นการต่อสู้กระบวนท่า เน้นพลังกายหมัดแลกหมัด ขาคู่และขาคู่ประมาณนี้ เป็นคู่ที่เน้นความทนทานของร่างกาย อีกทั้งส่วนตัวรู้สึกว่าคู่นี้มาพร้อมความมันส์และควาฮา ทั้งไรเดนและศิวะเป็นตัวละครที่มีมุมฮาๆ แฝงอยู่ พอๆ กับซุสและบุดด้าเลย ก็ถือว่าเป็นสีสันของเรื่องได้เลย
7. แจ็ค เดอะ ริปเปอร์อันดับที่ 7 แจ็ค เดอะริปเปอร์ บางคนออกตัวแรงเลยว่าไม่เชียร์เขาหรอกเพราะเขาคือฆาตกรโฉดที่โหดที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวละครนี้น่าสนใจนะ เพราะเป็นตัวละครที่มีมุมสะท้อนความจริงของมนุษย์ในหลายๆ ด้าน ดั่งเช่นที่เขาเอ่ยขึ้นมาในเรื่องว่า “ดีก็คือเลว ทรามก็คืองาม” มนุษย์เราทุกคนไม่มีใครดี 100% และงาม 100% หรอก ทุกคนล้วนถูกปรุงแต่งด้วยอะไรบางอย่างกันทั้งนั้น และในตัวแจ็ค เดอะริปเปอร์เวอร์ชันอนิเมะนั้นมีมุมสะท้อนสังคมถึงความย้อนแย้งบนคำพูดสวยหรูมากมายเลย ถ้าตัดชื่อแจ็ค เดอะริปเปอร์ออก ตัวละครตัวนี้ก็คือชายผู้ซึ่งเคยเป็นฆาตกรร้ายแต่ครั้งนี้เขากำลังออกมาสู้เพื่อมนุษย์ที่อ่อนแอ ต่อให้ครั้งนี้เขาสู้เพื่อช่วยมนุษย์เขาก็ยังไม่ได้รับความรัก ตรงกับสังคมความเป็นจริงที่มักจะถูกฉาบด้วยคำพูดสวยหรูว่าต้องขับเคลื่อนสังคมด้วยการให้อภัย… แต่ก็หลายครั้งที่ผู้คนมากมายเลือกไม่ให้โอกาสคนทำผิดอีก
8. โคจิโร่ ซาซากิซาซากิเป็นนักสู้ตัวแทนฝั่งมนุษย์ เขาเป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงในยุคอาซึจิโมโมยามะถึงช่วงต้นของยุคเอโดะ จุดเริ่มต้นของเขาคือเข้ามาเป็นลูกศิษย์ของคาเนมากิ จีไซหรือไม่ก็โทดะ ไซเก็น เพื่อเรียนรู้ศาสตร์ลับวิชาดาบโจโจริว จากนั้นก็เดินทางไปยังแคว้นต่างๆ เพื่อคิดค้นเพลงดาบ “นางแอ่นหวนกลับ”  และก่อตั้งสำนักกันริวขึ้นมา และออกเดินทางเพื่อปราบสำนักวิชาดาบในแคว้นต่างๆ มากมาย จนกระทั่งได้เป็นหัวหน้าครูฝึกวิชาดาบของตระกูลโฮโซกะวะ แน่นอนว่าเขาเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีตัวตนอยู่จริงๆ และถือเป็นซามูไรที่แข็งแกร่งมากในยุคนั้นเลย ส่วนบริบทในอนิเมะก็ปรากฎตัวในรูปร่างชายสูงวัย ที่ยังมีมีอัธยาศัยที่ดี ผ่อนคลายอารมณ์ดี ไม่ต้องเก๊กหน้าขรึมก็ดูน่าเกรงขาม คู่ต่อสู้ของซาซากิก็คือโพไซดอน เวลุนด์ของซาซากิก็จะเป็นดาบ ซึ่งเป็นอาวุธที่เขาชำช่อง อีกทั้งวัลคิรีที่มาเป็นเวลุนด์ให้เขาก็น่าสนใจอีกด้วย
9. ซูสอันดับที่ 9 ปู่ซูสนั่นเอง นึกว่าจะหลุด Top10 ไปซะแล้ว ความนิยมของซูสส่วนตัวขอเดาว่าคือคาแรกเตอร์ที่ชวนตลก ในเรื่อง หลายๆ ฉากเหมือนคนแก่ธรรมดาๆ ที่มาเป็นตัวโจ๊กของเรื่อง แต่เพราะว่าเขาคือซูส สุดยอดเทพกรีกแล้วก็ไม่มีทางเป็นแค่คนแก่ธรรมดาๆ ได้หรอก ซูสก็คือคู่ต่อสู้ของอาดัม และยังเป็นตัวละครหลักที่ช่วยให้สังเวียนแร็กนาร็อคนี้ดำเนินต่อไปได้ ส่วนซูสในตำนานก็มีภาพยนตร์หลายๆ เรื่องทำคิดว่าอาจจะรู้จักเขากันมาบ้างแล้วแต่ถ้าไม่รู้จักเราจะขอสรุปสั้นๆ ว่า เขาคนนี้คือเป็นบิดาแห่งเทพและมนุษย์ เป็นเทวราชผู้ปกครองเทพเจ้าแห่งโอลิมปัส ซึ่งก็คือ “เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า” ในเทพปกรณัมกรีก สัญลักษณ์ของซูสคือ อัสนีบาตสายฟ้า, เหยี่ยว, กระทิง และต้นโอ๊ก
10. เฮอร์คิวลิสปิดท้ายไปด้วยอันดับที่ 10 กับวีรชนแห่งตำนาน เทพที่เป็นที่รักของมนุษย์ “เฮราเคลส” หรือก็คือ “เฮอร์คิวลิส” ซึ่งออกมามีบทแล้วในซีซั่นสอง และยังเป็นการต่อสู้ที่มันส์และลุ้นมากจริงๆ เพราะแม้แต่เทพก็สามารถพ่ายแพ้ให้กับเล่ห์เหลี่ยมที่แพรวพราวของมนุษย์สุดโหดอย่างแจ็ค ส่วนตัวเห็นต่างกับคำพูดแนวๆ ว่าแม้แต่เทพก็พ่ายแพ้ให้ความชั่ว หรือแพ้ให้กับความมุ่งร้ายของแจ็คนะ ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นเพราะตามเกมตามความคิดตามแผนขออีกฝ่ายไม่ทันมากกว่า ไม่ใช่เพราะเฮอร์คิวลีสไม่เก่งนะ แต่เพราะซื่อตรงเกินไปเลยตามไม่ทัน เราเลยรู้สึกว่าในการต่อสู้ของคู่นี้ได้พิสูจน์ให้เห็นกันชัดๆ ถึงสัจธรรมที่แท้จริงว่า “ปัญญา” อยู่เหนือทุกอย่างต่อให้เป็นเทพที่เถรตรง ซื่อตรง ก็สู้คนปัญญาดี ไหวพริบดีไม่ได้ ต้องยอมรับว่าแม้แจ็ค เดอะริปเปอร์จะเป็นฆาตกรโฉดแต่สติปัญญา ไหวพริบของเขานั้นดีเกินเทพไปจริงๆ หากเฮอร์คิวลิสไม่ใช่คนประเภทเถรตรงจนเกินไปไม่แน่ว่าผลการต่อสู้อาจเป็นอีกแบบก็ได้ ส่วนนี้เราเดาว่าผู้เขียนเขาอาจจะกำลังชูโรงเรื่องความซื่อตรงที่มากเกินไปอยู่ก็เป็นได้นะ เดาจากบทพูดเฉลยรูปแบบแผนการต่อสู้ของแจ็คที่ยกให้เทพคนไหนเฉลยก็ได้ แต่บทพูดนั้นก็ตกที่ “โลกิ” เทพที่ขึ้นเชื่อเรื่องความแพรวพราวสุดๆ ดังนั้นถ้าเปลี่ยนเป็นเทพที่มีพละกำลังแบบเฮอร์คิวลิสแล้วก็มีความแพรวพราวแบบโลกิ สถานการณ์ฝั่งมนุษย์อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้

 

• Anime ออนไลน์
• Record of Ragnarok 2 Part 2
• การ์ตูนอนิเมะ
• ดูAnime
• ดูอนิเมะ
• อนิเมะฟรี